25520114

"เบิ่ยจิง วันที่๒"

นอนๆๆๆๆ
ตื่นขึ้นมาเต็มๆในปักกิ่งช่วงเช้า...
เดินหนาวออกมาหาของกิน
ก่อนที่จะเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ



บรรยากาศช่วงเช้า...
หนาวครับหนาว...
หนาวแล้วหนาวอีก หนาวมากๆทรมาน
เลยต้องไปหาอะไรกินที่ผู้พันแซนเดอร์
ก่อนจะออกเดินทางไปยังจุดหมายต่างๆที่วางไว้ตามแผน!!!



ในรถแท๊กซี่ที่จะไปยังจุดขึ้นรถจุดแรกของการเดินทางในครั้งนี้
ซึ่งก็คือการเดินทางไปยังกำแพงเมืองจีน...ก็กดชัตเตอร์ไปเรื่อย
ระหว่างทางที่รถแท๊กซี่ผ่านไปก็เจอสิ่งก่อสร้างสองสิ่งที่อยู่ในแผนการเยี่ยมชมวันถัดๆไปครับ


ผ่านไปเร็ว...กดชัตเตอร์เกือบไม่ทัน ล่กมาก!!!

เหตุการณ์หลังจากนี้ผมไม่ได้ทำการบันทึกภาพไว้(จะเจอช่องว่างแบบนี้อีกเยอะในตอนต่อไปเพราะว่าหนาวจนทำอะไรไม่ถูก)
-ผมต้องไปต่อรถทัวร์เพื่อเตินทางไปให้ถึงกำแพงเมืองจีนครับ
-รถทัวร์ไม่โผล่หัวมา และถ้าไปด้วยรถทัวร์จะใช้เวลาหลายชั่วโมงมากจากคำบอกกล่าวของ...เอ่อ...ใครฟะ ลืม
-แถวนั้นจะมีรถรับจ้างที่เป็นรถอิสระของคนทั่วไปมาดักรอลูกค้าที่ไม่มีที่ไปแล้วเหมาราคาในการเดินทางครับ
-จึงทำให้ต้องเสียตังค์ให้มันแทนเพราะว่าเพื่อประหยัดเวลาและลัดขั้นตอนที่น่าเบื่อต่างๆไปเลย
-เลยได้นั่งรถเหม็นบุหรี่ไปกำแพงเมืองจีน(ที่นี่มีกลิ่นหลากหลายมากครับ แต่ส่วนมากจะเป็นกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์)


แต่น แต๊น!!!


ในที่สุดก็มาถึงครับ กำแพงที่มานี้เป็นหนึ่งในหลายๆด่านที่มีอยู่ในหลายๆจุดของประเทศจีน
เนื่องจากน้องของผมเคยไปที่ด่านอื่นๆมาบ้างแล้วเขาเลยพามาที่ที่ยังไม่เคยมา
หนาว...หนาวชิบหาย ไม่รู้จะอธิบายยังไง

หนาว!!!



ก่อนจะออกเดินทางก็ต้องแวะห้องน้ำก่อนเพราะไม่รู้ว่าระหว่างทางจะเกิดเหตะการณ์อะไรขึ้น
เพราะว่าอากาศหนาวเหลือเกินครับ

แถวๆห้องน้ำครับ...
หนาวจนแสบมือ...
เดินไปทางไหนก็มีแต่อุณหภูมิที่เย็นยะเยือก...ว้าก!!!
เมื่อเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เตรียมตัวออกเดินครับ


เมื่อมาถึงก็พบกับทางเดินชัน ด่านนี้เป็นด่านแบบชันครับ...
ผมขึ้นไปแค่ด่านเดียวถึงกับหายใจแทบไม่ทัน เพราะว่าอากาศที่สูดเข้าไปมันผิดจากอุณหภูมิเดิมที่เคยได้
ทำให้เหนื่อยมาก แสบๆ แห้งๆ บ้าบอมากครับ


อ้าก...สุดท้ายผมเดินไปได้แค่สามด่าน ถ้าปกติไปเดินที่ราบจะเดินได้เป็นสิบด่านเลยน้องผมบอก
จากที่หนาวๆเมื่อได้ออกกำลังกายเต็มที่...ผมเริ่มปลดหมวกออก เริ่มปลดเสื้อเพื่อระบายความร้อน...
เหงื่อแตกที่-๖องศาเซลเซียสครับ เจ๋งเป็นบ้า...


ถ่ายรูปรวมๆเอาไว้ครับ จัดไปตอนขาที่กำลังกลับลงมาจากกำแพงชันๆ



พอหายเหนื่อยก็ทำตัวเหี้ยได้ จำได้ว่ามีคนมายืนรอเพื่อเดินผ่านผมไป
แต่กว่าจะถ่ายรูปเสร็จก็ใช้เวลาสักพัก...ไม่เป็นไรครับ ไปจีนแล้วไม่ต้องมีมารยาทมาก

หลังจากที่ลงมาจากกำแพงเมืองจีน...ก็ขึ้นรถบุหรี่คันเดิมมุ่งหน้าไปที่หมู่บ้านโบราณ
เหตุการณ์ต่อไปนี้ทำให้ผมเข้าใจได้ว่ามาเมืองจีนอย่าคาดหวังอะไรมาก เซอไพรส์!!!


ตอนที่ผมยังไม่เดินเข้ามาในพื้นที่นี้มันมีกำแพงบังไว้ครับ
พอเดินเข้ามาก็...
อธิบายไม่ถูก แต่เหมือนโดนหลอกครับ ฮ่าๆ(มีอีกหลายเซอไพรส์ในการเดินทางครั้งนี้ครับ)


ผมเดินมาถึงบ้านหลังหนึ่งซึ่งไกด์ที่นั่นบอกว่าสามารถขึ้นไปถ่ายรูปได้นะครับ
แต่...
เสียค่าขึ้นคนละ๑หยวน...(แม่งยังจะเอา)
พอขึ้นไปก็มีห้องที่เหมือนรูปข้างต้นน่ะครับ น้องผมถามคนที่แต่งตัวอยู่ข้างบนว่าถ้าจะถ่ายรูปคู่กับเค้าจะได้มั้ย?
ได้...แต่เสียงตังค์๑๐หยวน...
ผมหันไปเห็นชุดที่แขวนๆไว้ที่ราวเสื้อผ้าให้เอาไว้เปลี่ยน...ผมไม่ถามเพราะรู้ว่าขนาดจะขอถ่ายรูปกับมันยัง๑๐หยวน...
พวกผมเลยเดินลงมาตัวเปล่าๆกับรูปถ่ายโดดเดี่ยวแบบไม่แต่งตัวจีนๆ


โมโหว้อย!!!
ที่นี่จะให้ความรู้สึกคล้ายๆเมืองโบราณ หรือหมู่บ้านอนุรักษ์อะไรบางอย่างที่มีของเก่าๆเก็บไว้ที่นี่
แต่บรรยากาศที่ว่างเปล่าไร้ซึ่งผู้คนแบบนี้มันช่างทำให้สถานที่นี้เซ็งสิ้นดี


เซ็ง...
หนาว...
เอ้อ...ผมลืมบอกไปว่าผมมาที่นี่แล้วได้ของที่ระลึกมาหนึ่งอย่างคือเหรียญบดรูปกำแพงเมือจีน
เหรียญ+บด เพราะว่ามันเป็นการใส่เหรียญทองเหลืองกลมๆธรรมาดาลงไปในเครื่องบดที่มีลวดลายพิมพ์อยู่
แล้วผมก็หมุนๆมันออกมาเหมือนหมึกบดอ่ะครับ...เหลือกลมๆก็โดนบดจนเป็นวงรีและมีรูปกำแพงเมืองจีนติดอยู่บนเหรียญ
...คือว่าผมลืมถ่ายรูปไว้...ถ้ามีโอกาสจะจัดมาให้ดูทีหลังนะครับ


หึหึ...
เมื่อผมเดินเล่นกันเสร็จก็ย้อนกลับไปที่ทางออก ก็พอกับกลุ่มทัวร์กลุ่มหนึ่ง
ซึ่งค่าเข้าเฉยๆก็ปาเข้าไป๕๐หยวนแล้ว(น้องผมเอาบัตรนักศึกษามาใช้ลดราคาได้เลยลดไปครึ่งนึง...)
ขณะที่พิมพ์อยู่นี้ผมนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกว่าคืนวันแรกผมทานอาหารเย็นที่ไหนและทานอะไร...
และตอนนี้น้องผมดันเดินไปเข้าห้องน้ำอยู่...ไม่มีใครให้คำตอบได้รอสักครู่นะครับ
.
..

...

.....

. . . . .




ก็ยังไม่มา...รอก่อน
(ผมดันลืมถ่ายรูปแล้วดันนึกไม่อ...)
อ่าวมาละ อ่อ...
พวกผมเดินทางไปต่อในย่านตัวเมืองที่มีห้างสรรพสินค้าเยอะๆ(ซีตัน)
ไปกินร้านข้าวที่เหมือนพวกร้านจั๊งฟู้ดอ่ะครับ แต่เปลี่ยนจากไก่ทอด แฮมเบเก้อ...เป็นข้าวราดเนื้อต่างๆแทน
หลังจากนั้นก็กลับที่พักครับ มึน...ไปกับอากาศที่หนาวมาก(รู้สึกว่าผมพิมพ์คำว่า"หนาว"เยอะมาก)


จากที่พักครับ
แล้วผมก็ดื่อเบียร์ไปหนึ่งกระป๋องและเข้านอนครับ...
ผมตั้งนาฬิกาปลุกไว้ครับ...
เดี๋ยวถึงเวลาแล้วมันคงปลุกเอง...
ไปนอนละ
. . .

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อยากทราบว่ามีเหงื่อเป็นหยดน้ำแข็งด้วยหรือไม่