25511225

"จับฉลาก"

ตั้งแต่เด็กยันโตจนป่านนี้...
กิจกรรมที่ยังคงมีให้เห็นให้ทำกันในช่วงเทศกาลปีใหม่ก็คือการจับฉลาก
อีกครั้งกับปีนี้...ซึ่งมีการเปลี่ยนกติกากันเล็กน้อยจากการหาของก่อนแล้วมาจับ...
เป็นการจับเลือกคนก่อนแล้วค่อยหาของ(คล้ายๆกับการเล่นบัดดี้)
ซึ่งทุกคนนิ่งเงียบทันทีหลังจากที่จับฉลากของตนเองเสร็จ...
ผมเองก็นิ่งครับ...และตัดสินใจได้ในคืนนั้น
ว่าเปลี่ยนจากการซื้อของสำเร็จมาเป็นการทำเองเลยดีกว่า
สะใจตัวเองดี...เสียเวลา เสียเงิน เสียสุขภาพ(นอนดึกขึ้นเพราะต้องทำเองกะมือ)


งบขั้นต่ำกำหนดไว้ที่การซื้อของไม่ต่ำกว่า๑๐๐.-
ซึ่งจากของที่จัดมาโดยรวมแล้ว...
ก็ไม่รู้ว่าเท่าไหร่เหมือนกัน...ไม่ได้นับแต่ก็เห็นๆว่าแบงค์ในกระเป๋าหายไป

เป็นสภาพที่เอามารวมๆกันดีแล้วหลังจากที่เย็บมาสองคืนเต็มๆ

สามารถถอดออกมาได้...

นำบรรจุใส่กล่องที่ขนาดไม่พอดีปิดฝายากชิบหาย!!!

ต่อมาก็ปิดผนึกเพื่อแสดงถึงความสดซิงของงาน
ว่าจะไม่มีใครได้แตะก่อนผู้รับแน่นอน(อย่ารวมผู้ทำ)

ด้านหลังมีการอธิบายนิดๆหน่อยๆพองาม!!!

เมื่อตรวจเช็คเสร็จเรียบร้อย...ก็ห่อซะ!!!

แล้วเจอกันวันศุกร์ที่๒๖นี้!!!

(อ่าว แล้วใครคือผู้รับอ่ะ!!!)

"เมิงนี่ คิดมาก"


ไม่มีอะไรมากครับ รูปข้างบนนี้ทำเป็นการ์ดส่งไปให้เพื่อนๆ

ซานต๊าค่อด กำลังมาที่เมือง!!!

25511213

"กลยุทธตบหัว ลูบหลัง"

มันเกิดขึ้นมาจากการวางแผนกิจกรรมในหนึ่งของของน้องสาวคนหนึ่งที่ผมรู้จัก
ไม่ต้องเอ่ยชื่อก็ได้ เพราะว่าบุคคลใดที่มาอ่านแล้วเข้าใจเนื้อหานี้จะรู้เองว่าเธอคือใคร???

เล่นดนตรี คอร์ดแบต และสะดือ...

ไปรู้กันเองว่าตรงไหนตบหัว แล้วตรงไหนต้องลูบหลัง...

เอาล่ะ...เริ่มกลยุทธได้!!!

25511211

"โห่...ใครๆก็เคยเล่นเหอะ!!!"


ไปซื้อรถทามิย่ามาเล่นหนึ่งคัน...
หลังจากที่เอารางรถไปทิ้งไว้ที่ออฟฟิศพักใหญ่มากแล้ว...
สุดท้ายก็ได้ซื้อสักที รอมานาน นึกว่าจะไม่เข้าไทยซะแล้ว
เพราะว่ามันไม่ค่อยเป็นที่นิยมแล้ว...
ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงอยากได้ขึ้นมาก็ม่ายรู้...
แล้วไปซื้อช่วงลดราคาของห้างสรรพสินค้าด้วย...
สามร้อยหกบาทถ้วน...ถูกว่าสะพานเหล็กอีกนะ!!!
ต่อเสร็จแล้วจะนำมาให้ดูกัน...จะถ่ายดีๆมาให้ดูเลย!!!

25511206

"ภาษาของผม"

ช่วงนี้รู้สึกว่าตนเองนั้นดัดจริต
พูดใส่สำเนียงพยายามออกเสียงศัพท์ฝรั่งให้ชัด...
ทั้งๆที่มันก็ไม่ชัด ฟังเพลงต่างชาติหยิบกีตาร์มาดีดร้องให้ชัด...ได้ไม่ชัด!!!
การกดแป้นพิมพ์ไม่ชัดเจนเช่นเคย...
เขินที่จะพิมพ์ผิด เดี๋ยวจะดูโง่
คำไหนพิมพ์ผิดก็ต้องกังวล แทนที่จะใช้คำอื่นมาทดแทนหรือไม่ก็ไม่ใช้มันซะเลย
รู้ทั้งรู้ว่าทางมันขาดก็ยังเสี่ยงกระโดดข้ามไป
แต่บังเอิญตรงที่ว่าการกระโดนั้นกระโดดในทางเดินแห่งนามธรรม
ตกลงมากระดูกไม่หัก แขนไม่ถลอก แต่ไม่ทราบว่าจิตใจโดนอะไรไปบ้าง...

เอ่อ...อะไรกันวะเนี่ย?

กว่าจะรู้ตัวก็กลายเป็นนิสัยแปลกๆที่เริ่มงอกเงยแผ่กิ่งก้านซะแล้วครับ...

ที่จริงมันก็เป็นปกติอย่างที่มันจะปกติน่ะแหละ...

เอ๋...(เกิดการสงสัย มีการกดสเปซบาร์ถอยกลับไปกลับมาเพราะว่าสติไม่อยู่กับตัวเท่าไหร่)

ทุกคนน่าจะเข้าใจภาษาของผมนะ...ไม่เหนือบ่ากว่าแรงหรอก...จริงมั้ย?

เมอรี่คิดมั่ด!!!

25511204

"ตราดหนาวมาก"

สวัสดีครับ...ไปเที่ยวอีกแล้ว
หัวข้อบทความนี้ไม่ชวนให้งง ไม่ต้องสงสัย
อ่านแล้วมันแปลว่าอย่างไร...
ผมก็ตั้งใจหมายความว่าอย่างนั้นแหละ!!!




ณ.จังหวัดตราดครับ


กับการเฝ้ารอเวลาเพื่อขึ้นที่เอกมัย...
เสียงเพลงช่วยชำระล้างเวลาห่วยๆ!!!

ก็รอไปรอมาครับ...

แล้วก็ออกเดินทางกันเหมือนจะหลับแต่ไม่หลับ...
เพราะว่าไอ้เบาะด้านหน้าแม่งเอนลงมาแบบหน้าผาถล่ม
(แถมยังหันมามอง แอบมรายาททำท่าดึงกลับขึ้นไป
ย้ำ"ทำท่า"แปลว่า...)
ผมเลยนอนเตะเบาะด้านหน้าไปมา...
มันก็ยังหันมามอง...
ไอฟาย...มึงเหี้ยเองแล้วมางอนกุทำไม?

นอนไปแบบหลับๆตื่นๆครับ...


ถึงนู่นก็ตีสี่กว่า...รถทัวร์แม่งแดรกค์มาก...
แรงสุด จำได้ว่าครั้งก่อนมาเกาะช้างแม่งซัดไปเกือบหกชั่วโมง!!!


โอ้ว...ผมลืมอธิบายเรื่องสำมะคันสุดๆไป...
เมื่อถึงท่ารถ...ความตกตะลึงเกิดขึ้นเมื่อผมก้าวขาลากตนเอง
เดินผ่านประตูรถทัวร์ลงมาเหยีบพื้นครับ
ฟู่ม.....................................!!!
ลมครับ...
ลม...
แต่มัน แรง+เย็น เหี้ยๆครับ...
นึกว่าไปขึ้นภูที่ไหนสักแห่ง(กุไม่ได้โม้...ไข้หวัดที่กูได้แถมกลับมาเป็นตัวการันตี)

ความงุนงงก่อตัวขึ้นกับเพื่อนคณะอีกสามคนที่ร่วมเดินทางกันมา...
แต่ก็ไม่คิดมากอะไร เอะใจว่ามันแค่หน้าหนาว
จึงออกเดินทางไปที่ตลาดเพื่อหาทีต่อรถและหาของรองท้อง...
มื้อเช้ามืด...
เมื่อจัดกันไปเรียบร้อย
ก็หารถไปที่ท่าเรือ...
ผลปรากฏว่าไม่มีเรือมาครับ...
ลมแรงมากเรือออกไม่ได้...
ห่าน...แล้วจะให้ทำไงต่อ...
ด้วยความหนาวเหน็บทำให้ไม่สามารถอยุ่ที่ท่าเรือต่อได้
จึงย้อนลงมาที่ถนนเพื่อหาร้านอาหารทาน...

แทบจะให้รางวัลดีเด่น...
ข้าวกะเพราไก่ไข่ดาวที่มีรสชาตเหมือนข้าวผัดคะน้าปลาเค็ม
...โกรธป้าที่ทำมาให้แดกมาก...

ส่วนเพื่อนผมสั่งแซนด์วิสทูน่า...
ขนมปัง1คู่ + ทูน่าฝอยๆ + มะเชือเทศบาง + ผักกาดหอมหนึ่งใบ (เท่าที่ตาผมเห็นนะ)
เป็นราคา ๕๐.- ถ้วน...
โกรธมาก!!!


จึงนั่งรถหนีมาจากท่าเรือนั้นครับ
ขอบอกเลยว่าช่วงที่อยู่ในตัวจังหวัดตราดเหมือนเจอคนใจร้ายอย่างเดียว
ทรมานมาก...เซ็งเป็ด(คนที่ไม่ใจร้ายก็มีนะ แต่ดันไม่เจอ)
นั่งรถของ "แช" (ลุงในภาษาอิสลาม)
แชใจดี แชจริงใจ ทำมาหากินตามสมควร
ให้แชมาส่งที่ท่าเรือเฟอรี่ข้ามไปเกาะช้าง...
รอเรือครับ...

บนเรือขนอุย...
ขอแนะนำเลยว่าใครจะมาเกาะช้างให้ใช้เรือเฟอรี่ข้ามฟากที่อ่าวธรรมชาติ
ห้องน้ำพร้อม ผนังยกลอยนินึง...ลมโกรก...เย็นตูดเป็นที่สุด
ระดับเทพครับ...
แต่ถ้าใครไปรอบเดียวไม่ซื้อไปกลับ...
แนะนำให้หาทางอื่นเพราะว่าค่าบัตรแม่งฟันเราขาดเป็นสองท่อนเลย...
ไม่บอกราคาให้ไปสนุกกันเอาเอง!!!
รอดครับ...ผมเคยเดินทางมาเกาะช้างแล้วนั่งรถวนไปหน้าเกาะ...
เมารถครับ...อ้วกจนมีแต่อากาศออกมา...สุดติ่งครับ(ผมเมารถง่ายมาก)
ภาพด้านบนนี้คือบริเวณที่เรียกว่าบางเบ้า...
จ๊าบนะครับ ร้านอาหารอร่อยๆราคาย่อมเยาว์...
มาเกาะช้างต้องแวะมาจัดหน่อย...
ประเด็นแท้จริงที่มาเพราะว่า
บางเบ้าเป็นจุดต่อเรือข้ามไปที่เกาะหมากครับ...
กูหาอาหารทะเลซัดกัน แล้วก็รอขึ้นเรือไปที่ เกาะหมากกัน...

มาแล้วก็เก็บRCสักหน่อย...





เพื่อนๆของผมที่โดนทารุณกรรมจนเสียชีวิต...
บัดซบ!!!

...
นั่งเรือเร็วข้ามมา...รอดมาอย่างใจสั่นๆ
ก็มาถึงเกาะแล้วทางรีสอร์ทก็นำรถขนหมูมารับครับ
คลื่นหลอนมาก...
แล้วในเรือยังมีครอบครัวพ่อแม่ลูกที่ทำหน้าตาหวั่นวิตกกับเกลียวคลื่นอย่างเวอร์สุดๆ
ทำให้ภาพที่เราเห็นนั้นสร้างอารมณ์ร่วมอย่างรุนแรง!!!
(ไม่เมาเรือเพราะว่ากลัวแทน)
ในชีวิตนี้ไม่เคยมาเที่ยวกันเองกับเพื่อนๆและพักที่ดีแบบนี้เลย
-มีรถมารับ
-มาช่วยแบกของให้
-พาไปที่ห้องพัก
-สั่งอาหารถึงห้อง
-มารยาทดี
-พับผ้าเป็นรูปดอกไม้ นกน้อย สวยงามไว้ที่เตียง
-ห้องพักติดสระน้ำ
โอว...
ตะลึงกับความขัดแย้งของตนเอง...
ไม่ใช่ที่ของกุแน่ๆ กุมันหยาบคาย...เดี๋ยวต้องมีปัญหาแน่ๆ
แต่ก็ช่างมันครับ
หนาวครับ...ลมแรง...
อดเล่นน้ำครับ ทำใจไม่ได้ หนาวเกินไป
เลยเปลี่ยนจากเล่นน้ำไปขี้มอไซต์เล่นแทน
เลยไปถ่ายรูปขี้มอไซต์แทน
(สนุกดี ขี้มอไซต์ในรอบเกือบสิบปี แทบจะไม่รอด!!!)


มือเย็นครับ...(ยังมาไม่ครบนะเนี่ย)
กินกันแทบไม่หมด...ใช้ความพยายามแทนความหิว...
ขอบอกเลยว่าการมาเที่ยวครั้งนี้กินอิ่มเวอร์ทุกมื้อ...
แล้วก็กลับไปที่ห้อง ดื่มๆๆๆๆๆๆแล้วก็นอน...










...







เช้าวันรุ่งขึ้น...



ดูต้นมะพร้าวดิ๊...
เอียงตามลม...
อ่อ...เมื่อคืนได้รู้ความจริงและข้อมูลว่า
ลมเหล่านี้เป็นลมที่เรียกว่า "ลมว่าว"
เป็นลมเปลี่ยนฤดู แต่คนบนเกาะบอกว่า...
ครั้งนี้มาแปลก เพราะว่าแรงมาก มานานกว่าทุกครั้ง
และเป็นลมที่เย็นมาก...
จริงๆแล้วมันควรจะหมดไปตั้งแต่ช่วงกลางเดือน
คนที่รีสอร์ทบอกว่ามันน่าจะเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน
แกนโลกเอียง...อะไรก็ว่ากันไป(เอาเป็นว่ามันหนาวจนเล่นน้ำไม่ได้ละกัน)
นี่คือการแต่งตัวที่ทะเลแบบฝืนๆ
เพราะว่าเอากาศเย็นมากทำอะไรไม่ได้นอกจาก
ทน...
ทนไป...
ด้วยความเบื่อครับรอให้แดดออกแรงๆๆๆๆๆๆๆๆ
จะได้ไปโดดน้ำไหว!!!
แดดแรงๆมาแล้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
...อ่อ อีกเรื่อง
คือองค์ประกอบทั้งหมดของการเป็นทะเลสวยงามน่าเที่ยวครบหมดเลยนะครับ
มีอย่างเดียวที่ไม่เหมือนปกติคือ ความเย็นของลม...เย็นเวอร์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เริ่มเตรียมใจไปเล่นน้ำที่แสนหนาวเหน็บ

"ดูนู่นสิ..." "ไหนๆ?"
(ห่าน...มาเป็นคู่ชู้ชื่นงะเลยทำตัวน่าถีบได้)
ระหว่างรอเวลาก็เล่นอะไรเรื่อยเปื่อย...
แต่มันส์มาก...มันถล่มลงมาชนกับแก้วเบียร์ที่วางไว้
กระจาย!!!
แล้วก็ถึงเวลา...
บุ๋งๆ




ซู่ม...!!!

...

นี่คือภาพรวมภาพเดียวที่มี...เพราะวานให้น้องพนักงานที่สระถ่ายให้!!!
หนาวนัก...ซัดสักหน่อย!!!
ใครๆก็รู้นะครับว่าเล่นน้ำมันเหนื่อย
เลยต้องพักเอาแรงกันสักหน่อย...
กรึ๊บ...
กรึ๊บ...
อา.......
แล้วก็ออกไปขี่มอไซต์อีกครับ...ไปหาข้าวกิน
อร่อยอีกแล้ว...
ลมแรงมากไปนอกเกาะไม่ได้เลย...อดๆๆๆๆๆๆๆ
เลยขี่มอไซต์วนดูโน่นดูนี่ไปเรื่อยแต่หนุกไปอีกแบบเลย
ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน
ดังนั้นมาสนุกกับความแน่นอนกันเถอะ!!!
ท่านี้ให้คะแนนเต็มร้อยเลยเพื่อยเอ๊ย!!!
ได้รับความอนุเคราะห์จากเพื่อนก้อย...
แม่งถ่ายตอนไหนยังไม่รู้ตัวเลย
มาเห็นตอนเซฟไฟล์มาลงคอมพิวเต้อ
หลังจากที่ถ่ายรูป ขี่มอไซต์เล่นจนถึงเย็น
พวกผมก็เดินทางกลัที่พักเพื่อเริ่มการตั้งวง
และความแตกต่างของชนชั้นสังคมก็สำแดงผลออกมาครับ
แขกที่พักอยู่ห้องพักติดๆกัน
ไปบอกทางโรงแรม...ว่าผมเสียงดัง
จึงมีพนักงานมาขอความร่วมมือในการลดเสียง...
ว้าก!!! ไอ้พวกสุภาพชน...
จึงกลายเป็นการฟังเพลงเบาๆ
ดื่มจนพอใจ...และเข้านอน!!!
ตื่นมาช่วงเช้าวุ่นวายนิดหน่อยเพราะว่าตารางการเดินเรือเปลี่ยน
ทำให้ไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากทานอาหารเช้า
แล้วเตรียมตัวเดินทางกลับ...
กลับด้วนเรื่อไม้ลำใหญ่
เปลี่ยนจากเรือเร็วเพราะว่า...
มีกลุ่มนึงนั่งเรอเร็วออกไปตอนเช้าแล้ว...
แต่เรือเร็วดันไปมุดคลื่นสองรอบ
จึงวนกลับมาที่เกาะครับ
ถ้าจะเมาเรือขอเมาแอลกอฮอล์ดีกว่าว้อย!!!

กลับถึงตัวเมือง...ก็ยังไม่วานถ่ายรูปเล่น หาข้าวกิน ก่อนเดินทางกลับ

หอนาฬิกาที่นี่ทำผมเสียใจจริงๆ...
ไม่ตื่นเต้นเล้ย...


เมื่อถึงเวลากลับรถทัวร์ก็กวนตีนอีกแล้วครับ
เพราะว่าคนกลับรออยู่ที่ตลาดไม่กี่คน...
มันเลยไม่เข้ามารับในตลาด...
แล้วก็อ้างว่าเข้ามาจอดไม่ได้จะโดนปรับ ๕,๐๐๐.- ถ้วน
...กุจำได้ติดตาเลยว่าตอนแรกที่เข้ามากุมาไม่ทันรถทัวร์คันนึง
ที่จอดอยุ่ในซองตรงข้างๆตึกที่ขายตั่วเลยงะ...
เลว!!!

ดังนั้น...
จึงต้องนั่งรถไปที่ท่ารถ...แล้วมุ่งหน้ากลับกรุงเทพฯ...
ในตัวเมืองตราดไม่ค่อยเจอคนจริงใจเลย...เซ็ง!!!
(ผมว่าแต่คนที่ไม่จริงใจนะครับ...คนดีๆไม่เกี่ยว)
แล้วไว้เที่ยวกันอีกนะเพื่อนๆ!!!